โอนิกิริหรือข้าวปั้นญี่ปุ่นคือหนึ่งในอาหารญี่ปุ่นที่พบได้ทั่วไป ทั้งในครัวเรือน ร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต ชาวญี่ปุ่นจะนำข้าวที่หุงสุกแล้วมาผสมกับเกลือเล็กน้อยแล้วปั้นให้เป็นรูปสามเหลี่ยมหรือทรงกลม อาจใส่ไส้และห่อสาหร่ายหรือไม่ก็ได้ชื่อโอนิกิริ มาจากคำกริยา นิกิรุที่แปลว่าจับ บีบ หรือปั้น มาจากวิธีการปั้นโอนิกิริซึ่งจะใช้มือกดให้เป็นรูปสามเหลี่ยมหรือวงกลม
ขนาดของโอนิกิริ (แบบโฮมเมด) จึงเท่ากับมือของคนปั้นนั่นเอง ปัจจุบันโอนิกิริมีความหลากหลายมาก ทั้งการผสมเครื่องปรุงต่างๆ ในเนื้อข้าว เช่น ผสมฟุริคาเกะ (ผงโรยข้าว) ผสมเนื้อสัตว์ ไข่ หรือผัก ไปจนถึงการนำเอาข้าวผัดมาปั้นเป็นโอนิกิริ ไส้ด้านในของโอนิกิริก็มีหลากหลาย เช่น แซลมอน ทูน่า บ๊วย ไข่ปลา สาหร่าย ไข่ ผัก เห็ด ไปจนถึงเทมปุระหรือคาราอาเกะ และอื่นๆ ซึ่งอาจผสมกับมายองเนสหรือเครื่องปรุงรสอื่นๆ เช่น แซลมอนย่างเกลือ ทูน่ามาโย เป็นต้น ความเป็นมาของโอะนิงิริ จากบันทึกของมุราซากิ ชิกิบุ (ผู้แต่งเรื่องตำนานฮิการุ เก็นจิ) ที่บันทึกไว้ในศตวรรษที่ 11 เล่าว่า ในสมัยนั้นเรียกข้าวปั้นว่า ทงจิกิ ผู้คนทานกันทั่วไปและนิยมทำข้าวปั้นใส่กล่องไปปิคนิคกัน อีกเรื่องเล่าหนึ่งมีอยู่ว่า ย้อนกลับไปในสมัยศตวรรษที่ 17 ซามูไรหรือนักรบญี่ปุ่นมักจะทำข้าวปั้นห่อด้วยใบไผ่นำไปเป็นเสบียงยามออกศึก แต่แน่นอนว่าความจริงแล้ว ข้าวปั้นจะต้องมีต้นกำเนิดมาก่อนหน้ามุราซากิ ชิกิบุแน่ๆ ในสมัยนาระ ที่ยังไม่ใช้ตะเกียบกันอย่างแพร่หลายนั้น บ่อยครั้งที่ผู้คนจะนำข้าวมาปั้นเป็นลูกเล็กๆ เพื่อให้ง่ายต่อการหยิบทาน ในยุคสมัยเฮอัน ข้าวปั้นจะถูกปั้นเป็นรูปสามเหลี่ยมเล็กๆ ที่รู้จักกันในชื่อ ทงจิกิ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดวางซ้อนกันบนจาน และง่ายต่อการรับประทาน