แกงกะหรี่ญี่ปุ่นนั้นมีต้นกำเนิดดั้งเดิมมาจากประเทศอินเดีย ย้อนไปเมื่อประมาณศตวรรษที่ 17 อินเดียเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ชาวอังกฤษที่ไปอินเดียได้รับประทาน “Kari” ซึ่งเป็นแกงของอินเดียที่ถูกปรุงรสด้วยเครื่องเทศนานาชนิด เมื่อกลับอังกฤษพวกเขาก็ได้นำเครื่องเทศของอินเดียมาปรุงอาหารและดัดแปลงสูตรจนกลายเป็นแกงกะหรี่สไตล์อังกฤษและแพร่หลายไปทั่วอังกฤษและยุโรป
ต่อมาแกงชนิดนี้ได้เป็นที่รู้จักและถูกเรียกว่า Curry มาจนถึงปัจจุบัน วัตถุดิบในการทำแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ผงแกงกะหรี่ก้อน หมูเนื้อแดง หอมหัวใหญ่ แครอท มันฝรั่ง น้ำผลไม้รสรวม กระเทียม น้ำมันพืช พริกป่น ตามแต่ชอบ โชยุ เกลือ ตามแต่ชอบ เนยเค็มก้อนเล็ก ขั้นตอนวิธีทำ หอมหัวใหญ่ แครอท มันฝรั่ง หั่นเป็นชิ้นใหญ่ประมาณเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 เซนติเมตรหรือใหญ่กว่า แต่ไม่ควรหั่นเป็นลูกเต๋า เพราะไม่สวย เนื้อแดง หากซื้อมาแบบชิ้นใหญ่ ให้หั่นขนาดพอๆ กับผัก แต่ใช้แบบแล่บางๆ สำเร็จรูปก็ได้เหมือนกัน หอมหัวใหญ่ กระเทียม นำมาปอกเปลือกแล้วซอยบางๆ การทำแกงกะหรี่ ใส่น้ำมันลงในหม้อต้มหรือหม้อตุ๋น ตั้งไฟอ่อน ใส่กระเทียมลงไปผัดให้เหลืองสวย แล้วตามด้วยหัวหอมใหญ่สไลด์บาง ผัดต่อด้วยไฟอ่อนจนหัวหอมใหญ่สุกเป็นสีเหลืองทอง ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 10- 15 นาที ใส่เนื้อหมูลงไปผัดตาม ผัดให้สุกพอประมาณ แล้วเติมน้ำลงไป จากนั้นใส่หัวหอมใหญ่ แครอท มันฝรั่ง ตั้งไฟปานกลาง แล้วตั้งเอาไว้นาน 30 นาทีหรือจนผักนุ่มสุก น้ำในหม้อจะลดลงเล็กน้อย เติมน้ำผลไม้ลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติของผักและผลไม้ ใครไม่ชอบไม่ต้องใส่ก็ได้ ปรุงรสเค็มด้วยโชยุ ปรุงรสเผ็ดด้วยพริกป่น จากนั้นเติมเกลือและคนอร์ซุปก้อนลงไป ลองชิมดูจะได้รส เค็ม ตามด้วยหวานอมเปรี้ยวและเผ็ดนิดๆ แต่ว่ารสชาติจะติดจืดเพราะปริมาณน้ำมาก ใส่ก้อนผงแกงกะหรี่ลงไป ใช้น้ำร้อนค่อยๆ ละลายการจับตัวของก้อนผงแกงกะหรี่ทีละนิดๆ จนละลายหมด แล้วตั้งไฟต่ออีกประมาณ 15 – 30 นาที หรือจนกว่าแกงกะหรี่ในหม้อจนเข้มข้นจนพอใจ แล้วลองชิมรสชาติดูว่า ขาดรสชาติไหนบ้างค่อยปรุงรสเพิ่มเติมใส่เนยเค็มแล้วคนให้ละลายก่อนจะยกหม้อลงจากเตา ให้ใส่เนยเค็มแล้วคนให้ละลายเป็นอันเสร็จ ยกเสิรฟกับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลย