ปลาตะเพียนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป แม้ก้างจะเยอะแต่นิยมนำไปปรุงอาหาร ทั้งต้มยำ ทอดกรอบ และต้มเค็ม เมืองอู่ข้าวอู่น้ำอย่างสุพรรณบุรีซึ่งเป็นแหล่งปลาตะเพียน เมื่อชาวบ้านจับปลาได้มากๆ มักถนอมอาหารด้วยการต้มเค็มเพราะเก็บไว้กินได้นานหลายวัน เมนูนี้จะได้ความหวานจากอ้อยและน้ำตาล ยิ่งเคี่ยวก้างยิ่งเปื่อย รสชาติกลมกล่อม เปรี้ยว หวาน เค็มและอร่อย
เก็บได้นานด้วยการอุ่นไฟอ่อนๆ ไปเรื่อยๆ อย่าใช้ไฟแรงเด็ดขาด สูตรเด็ดต้มเค็มปลาตะเพียนที่ยิ่งอุ่นยิ่งอร่อย เริ่มต้นหาปลาตะเพียนสดๆ ตาใสๆ ผ่าท้องเอาเครื่องในออก ระวังอย่าให้ดีแตก ถ้าแตกจะขมทั้งหม้อ (ที่เขาเรียกว่าดีแตกเป็นอย่างนี้เอง)จากนั้นล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง ดีเป็นส่วนประกอบในท้องปลาเล็กๆ มีสีเขียว ขั้นตอนสำคัญอีกอย่าง ปลาตะเพียนต้องไม่ขอดเกล็ด เตรียมอ้อยเหลือง ปอกเปลือก ทุบพอบุบเพื่อให้น้ำอ้อยออก นำไปรองก้นหม้อเพื่อไม่ให้ปลาติด นำปลาที่เตรียมไว้มาวางทับบนอ้อย ห้ามคนเด็ดขาด เดี๋ยวเนื้อปลาหลุด ทำน้ำขุ่นด้วย ใส่น้ำสะอาด หอมแดงทุบ เกลือ น้ำปลา น้ำส้มมะขาม เคี่ยวไปเรื่อยๆ ด้วยไฟอ่อนๆ จนเนื้อปลาเริ่มเปื่อย สังเกตที่เกล็ดปลาตะเพียนจะพองๆ ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปตามชอบ